Tesla เลย์ออฟยกทีมฝ่าย Supercharger คาดเลิกจ้างทั้งหมดอาจสูงถึง 20,000 คน

แม้บริษัท "เทสลา อิงค์" (Tesla) จะเดินหน้าเลิกจ้างพนักงานทั่วโลกไปแล้วถึง 10% หรือมากกว่า 14,000 ราย ตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาในเดือน เม.ย. แต่การเลิกจ้างของค่ายรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เบอร์ 1 จากสหรัฐรายนี้ก็ยังไม่ได้จบลงแค่นั้น

ล่าสุดมีรายงานว่า "อีลอน มัสก์" ซีอีโอของเทสลากำลังผลักดันให้มีการปรับลดพนักงานในบริษัทมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อพนักงานประมาณ 500 คน ในทีมซูเปอร์ชาร์จเจอร์ (Supercharger)

เว็บไซต์ข่าวด้านเทคโนโลยี ดิ อินฟอร์เมชัน และเว็บไซต์อิเล็กเทรครายงานว่า มัสก์ได้ส่งอีเมลไปยังบรรดาผู้จัดการของเทสลาในช่วงกลางคืนเพื่อแจ้งว่า รีเบคก้า ตินุคซี ผู้อำนวยการอาวุโสของฝ่ายอีวี ชาร์จจิง ได้ลาออกพร้อมทีมงานส่วนใหญ่จากทั้งหมด 500 คนที่เธอดูแลอยู่ เช่นเดียวกับ แดเนียล โฮ ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการยานพาหนะ ที่ลาออกจากบริษัทยกทีมเช่นกัน เมื่อวันอังคารที่ 30 เม.ย.

มัสก์ยังส่งสัญญาณความเป็นไปได้ของการ "เลิกจ้างเพิ่มเติม" ในอีเมลดังกล่าวด้วยว่า ต้องการให้เทสลาดำเนินการเลย์ออฟแบบฮาร์ดคอร์จริงจัง และพนักงานคนไหนที่ทำงานภายใต้ผู้บริหารที่ไม่ผ่านการประเมินผลในขั้นยอดเยี่ยม จำเป็น และน่าเชื่อถือ ก็จะต้องออกจากงานไปด้วย  

ซีเอ็นบีซีระบุว่า มีพนักงานหลายคนที่ถูกปลดและพนักงานรายหนึ่งที่ยังคงทำงานในเทสลา แคลิฟอร์เนีย ได้ยืนยันรายละเอียดการปรับโครงสร้างองค์กรที่กำลังดำเนินอยู่ ขณะที่พนักงานของเทสลาที่ถูกเลิกจ้างคนอื่น ๆ ก็มีการโพสต์สาธารณะเกี่ยวกับการที่เทสลากำลังเลย์ออฟพนักงานของทีม Supercharger แบบยกทีมเช่นกัน

แม้ตัวเลขการเลิกจ้างทั้งหมดในเทสลาจะยังไม่มีการเปิดเผยออกมาชัดเจน แต่บลูมเบิร์กประเมินว่าการเลิกจ้างรอบล่าสุดนี้ หากรวมกับหลายครั้งก่อนหน้าที่มีขึ้น 10% ทั่วโลก อาจส่งผลให้ยอดรวมการเลิกจ้างทั้งหมดสูงถึง 20% หรือมากกว่า 20,000 คน

ข่าวนี้ยังส่งผลให้ราคาหุ้นของเทสลาร่วงลงถึงเกือบ 6% ในวันที่ 30 เม.ย. โดยราคาหุ้นเทสลาปิดตลาดวานนี้ที่ 183.28 ดอลลาร์ ร่วงลง 10.77 ดอลลาร์ หรือ -5.55% และปรับตัวลง 26% แล้วในปีนี้

เรื่องโดย Bangkokbiznews