แนะนำ! วิธีต่ออายุใบขับขี่ 2566 ใช้เอกสารอะไรบ้าง มีขั้นตอนอย่างไร ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
23 กรกฎาคม 2566, เข้าชมแล้ว: 18,585 viewsสำหรับคนที่กำลังจะไปต่อใบขับขี่ในปี 2566 นี้ แต่ยังสงสัยว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง และต้องมีขั้นตอนดำเนินการอย่างไร หรือบางท่านอาจจะกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเท่าไหร่บ้าง วันนี้ทางเราจึงได้รวบรวมข้อมูลมาฝากทุกๆท่าน เป็นข้อมูลที่ถือว่าอัพเดทล่าสุด ซึ่งการต่ออายุใบขับขี่นั้นสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างเรา ๆ ต้องให้ความสำคัญ กว่าจะได้ต่อใบขับขี่แต่ละครั้งอาจจะต้องใช้เวลาถึงห้าปีค่อยได้ต่อ ซึ่งการอัพเดทของข้อมูลอาจจะไม่ล่าสุด แล้วปัจจุบันใบขับขี่ตลอดชีพนั้นได้ถูกยกเลิกไปเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงใบขับขี่แบบชั่วคราว ( 2 ปี) และ 5 ปี
ในปัจจุบันกรมขนส่งทางบกได้อนุญาตให้อบรมทางออนไลน์ได้ ผ่านระบบ e-Learning ในเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com โดยผู้ขออนุญาตทำใบขับขี่หรือต่ออายุใบขับขี่ไม่จำเป็นต้องไปอบรมที่ขนส่ง โดยประชาชนทุกคนสามารถเข้าไปลงทะเบียนจองคิวเข้าอบรมได้ ทั้งนี้ผลอบรมสามารถใช้ได้ภายใน 90 วันหลังจากวันที่ผ่านการอบรม
ขั้นตอนการต่อใบขับขี่สำหรับปี 2566 มีดังนี้:
1. เข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.dlt-elearning.com/ เพื่อลงทะเบียนเข้ารับการอบรม
2. ดูวิดีโอการอบรมตามใบขับขี่ที่ต้องการต่ออายุ
3. ตอบคำถามจากการดูวิดีโอ 3 ข้อ
4. กรอกข้อมูลยืนยันตัวตน
5. เสร็จสิ้นการอบรม
นำผลและเตรียมเอกสารไปยื่นต่อใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่งทางบก โดยสามารถจองคิวเข้ารับบริการผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue
การต่ออายุใบขับขี่ จากชนิดชั่วคราว (2 ปี) เป็น 5 ปี
เอกสารที่ต้องเตรียม
1.ใบขับขี่ชั่วคราวอายุไม่ต่ำกว่า 1 ปี
2. บัตรประชาชนฉบับจริง
3. ใบรับรองแพทย์แสดงว่า ผู้ขอไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งมีอายุใช้ได้ตามที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด แต่ต้องออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน
ขั้นตอนการต่อใบขับขี่จากชนิดชั่วคราว (2 ปี) เป็น 5 ปี
1.จองคิวผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue
2. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ประกอบไปด้วย
# ทดสอบการมองเห็นสี ที่จำเป็นในการขับรถ
# ทดสอบสายตาทางลึก
# ทดสอบสายตาทางกว้าง
# ทดสอบปฏิกิริยาเท้าในการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ
3. ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่
ค่าธรรมเนียมและค่าใบขับขี่รถยนต์ 505 บาท หรือ รถจักรยานยนต์ 255 บาท
การต่ออายุใบขับขี่ชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี
เอกสารต่อใบขับขี่ ชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี
1. ใบขับขี่เดิม หรือใบแทน
2.บัตรประชาชนฉบับจริง
3. ใบรับรองแพทย์แสดงว่า ผู้ขอไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งมีอายุใช้ได้ตามที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด แต่ต้องออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน
ขั้นตอนการต่อใบขับขี่ชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี
1. อบรมใบผ่านระบบ e-Learning ที่เว็บไซต์ https://dlt-elearning.com/
2. จองคิวผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue
3. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
# ทดสอบการมองเห็นสี ที่จำเป็นในการขับรถ
# ทดสอบสายตาทางลึก
# ทดสอบสายตาทางกว้าง
# ทดสอบปฏิกิริยาเท้าในการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ
4. ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่
ค่าธรรมเนียมและค่าใบขับขี่รถยนต์ 505 บาท หรือ รถจักรยานยนต์ 255 บาท
ประชาสัมพันธ์ อื่น ๆ
-
(พรีวิว) สินเชื่อรถมือสอง รถบ้านรถซื้อขายกันเอง รถเต็นท์ ดอกเบี้ยถูก กับ Kleasing
พรีวิว สินเชื่อจาก Kleasing สินเชื่อรถมือสอง กู้เงินซื้อรถบ้านรถซื้อขายกันเอง รถเต็นท์ เข้าไฟแนนซ์ ดอกเบี้ยถูก กับ Kleasing รับข้อเสนอโดนใจ26 มกราคม 2567 -
(พรีวิว) สินเชื่อ กรุงศรี รถบ้าน
สินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว จาก กรุงศรี ออโต้ อยากได้รถบ้าน ต้องสินเชื่อ กรุงศรี รถบ้าน จัดไว จ่ายไว25 มกราคม 2567 -
(พรีวิว) สินเชื่อรถมือสอง ทีทีบี ไดรฟ์ ( ttb DRIVE)
วันนี้เรามี สินเชื่อเกี่ยวกับ สินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว ทีทีบี ไดรฟ์ (สินเชื่อรถมือสอง) มา พรีวิว ให้ทุกท่านได้ทราบ ว่า ความน่าสนใจของสินเชื่อนี้ดีอย่างไร24 มกราคม 2567 -
รู้หรือไม่ ? ทั้งปี 2566 มีจำนวนรถที่จดทะเบียนใหม่กี่คัน
หลังจากที่ผ่านปี 2566 มาเเล้ว เรามาดูสถิติจำนวนรถจดทะเบียนใหม่ ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก ปี พ.ศ. 2566 โดยข้อมูลรวมทั่วประเทศ โดยจะเเบ่งสถิติตามประเภทรถต่าง ๆ22 มกราคม 2567 -
สาเหตุ ทำไมต้องใส่หมวกกันน็อก ?
ความปลอดภัยในการใช้รถ ใช้ถนนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะการขับรถมอเตอร์ไซค์ หมวกกันน็อกเป็นสิ่งที่สำคัญอยางยิ่ง18 ธันวาคม 2566 -
รู้หรือไม่ ? ประเทศไทยเรา มีจำนวนรถที่จดทะเบียนทั้งหมดกี่คัน
กรมการขนส่งทางบก กลุ่มสถิติการขนส่ง ได้เปิดเผยยอดจำนวนรถที่จดทะเบียนทั้งหมดในประเทศไทย ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท30 พฤศจิกายน 2566